หนังสือพิมพ์เอลเปส์ (El Pais) ของสเปน เปิดเผยถึงกรณีลอบเพาะเลี้ยงตัวอ่อนที่มีทั้งเซลล์ของมนุษย์และลิงอยู่ในร่างเดียวกันเป็นครั้งแรกของโลก โดยรายงานว่านักวิทยาศาสตร์เชื้อสายสเปนได้ทำการทดลองดังกล่าวที่ห้องปฏิบัติการแห่งหนึ่งในประเทศจีน เพื่อหลีกเลี่ยงกฎเกณฑ์ทางจริยธรรมที่สั่งห้ามการกระทำเช่นนี้ในหลายประเทศทั่วโลก
สื่อของสเปนระบุว่า ศาสตราจารย์ฮวน คาร์ลอส อิซปิซูอา เบลมอนเต นักวิจัยประจำสถาบันซอลค์ (Salk Institute) ในรัฐแคลิฟอร์เนียของสหรัฐฯ ได้ร่วมมือกับนักวิจัยด้านวานรวิทยาของจีนในการสร้างตัวอ่อน "ครึ่งคนครึ่งลิง" ดังกล่าว เพื่อหาหนทางสร้างอวัยวะอะไหล่เช่นตับหรือไตที่มีคุณภาพ ซึ่งจะมีความเหมาะสมสำหรับใช้รักษาโรคในมนุษย์ได้มากที่สุด
ก่อนหน้านี้ ศ. อิซปิซูอา ได้เคยทดลองสร้างตัวอ่อนไคเมรา (Chimera) หรือสิ่งมีชีวิตที่มีเซลล์ของสัตว์ต่างชนิดพันธุ์ผสมกันอยู่ในร่างเดียวมาแล้ว โดยใช้วิธีฉีดเซลล์ต้นกำเนิดหรือสเต็มเซลล์ของมนุษย์เข้าไปในตัวอ่อนหมูและแกะที่มีอายุเพียงไม่กี่วัน เพื่อให้เกิดการสร้างอวัยวะที่เป็นเซลล์ของมนุษย์ขึ้น
- สเต็มเซลล์: นักวิจัยญี่ปุ่นเดินหน้าปลูกถ่ายเซลล์ต้นกำเนิดของมนุษย์เข้าไปในหนู
- กว่าครึ่งหนึ่งของร่างกายคนเราไม่ใช่มนุษย์
- สุดยอดการค้นพบทางวิทยาศาสตร์แห่งปี 2018
- สุขภาพ : วิธีบำบัดใหม่ใช้กระแสไฟฟ้าอ่อนแตะใบหูช่วยชะลอวัย
อย่างไรก็ตาม การทดลองกับตัวอ่อนหมูและแกะของศ. อิซปิซูอา ไม่ประสบผลสำเร็จ โดยเซลล์ของมนุษย์ไม่สามารถเติบโตเพิ่มจำนวนและคงอยู่ในตัวอ่อนของสัตว์ได้อย่างยั่งยืน ทำให้มีผู้สันนิษฐานว่าศ. อิซปิซูอาต้องการจะเปลี่ยนมาทดลองกับลิงซึ่งมีความใกล้เคียงกับมนุษย์มากกว่า
ข่าวการทดลองเลี้ยงตัวอ่อนครึ่งคนครึ่งลิงนี้ สร้างความวิตกให้กับหลายฝ่ายที่เป็นห่วงเรื่องประเด็นปัญหาทางจริยธรรม หลังจากที่เมื่อสัปดาห์ก่อน รัฐบาลญี่ปุ่นได้อนุมัติให้นักวิทยาศาสตร์ทดลองเลี้ยงตัวอ่อนครึ่งคนครึ่งหนูได้ ทั้งยังอนุญาตให้ตัวอ่อนไคเมราเติบโตจนครบกำหนดคลอดและลืมตามาดูโลกได้ด้วย
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น